เพื่อไทยแนะรัฐบาลตั้ง ‘ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ’

เพื่อไทยแนะรัฐบาลตั้ง ‘ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ’

วันนี้ (25 ส.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมากล่าวถึง ปัญหาเศษรฐกิจในช่วงนี้ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ รวมถึงปัญหาจากภายในประเทศในด้านต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศไทย ส่งผลให้ล่าสุดมีผู้ได้รับผลกระทบฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงไม่กี่วันมีข่าวการฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจแล้วถึง 5 กรณี จึงได้แนะนำรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เร่งตั้งศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจโดยด่วน

นายอนุสรณ์ระบุว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม 

ออกมาโวยที่โดนด่าไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจพร้อมระบุว่าหากไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจจะเป็นนายกฯได้อย่างไรนั้น ตนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกฯ ครั้งแรกจากการทำรัฐประหาร ได้เป็นนายกฯ ครั้งที่ 2 จากกติกาที่ถูกตั้งคำถามว่าบิดเบี้ยว ทั้งสูตรการคำนวณ ส.ส. การให้ ส.ว.250 คนโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ การที่พล.อ.ประยุทธ์ ควบในแทบทุกตำแหน่งสำคัญของรัฐบาล รวมถึงการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจด้วยตัวเอง

ขณะนี้มีปัญหาจากภายนอกอย่างปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่ยกระดับเป็นสงครามค่าเงิน ส่วนญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ก็กลายเป็น 2 ประเทศที่เกิดความขัดแย้งคู่ใหม่ บวกผลกระทบจากการชุมนุมต่อต้านอำนาจรัฐบาลปักกิ่งของฮ่องกงที่ไม่จบง่ายๆ ซ้ำด้วยปัญหาภายใน อย่างวิกฤติภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ หนี้ครัวเรือน ค่าครองชีพสูง ค่าแรงต่ำ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ประชาชนสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ซึ่งล้วนส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน

ตอนนี้ แม้แต่ครม.จากต่างพรรคยังยอมรับสารภาพว่าเศรษฐกิจของประเทศแย่ และรัฐบาลไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ นายอนุสรณ์กล่าวว่า นอกเหนือจากการพยายามตั้งศูนย์ต่อต้านเฟคนิวส์เซ็นเตอร์ ซึ่งอาจไม่จำเป็นเร่งด่วน รัฐบาลควรตั้งศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรมโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นช่องทางช่วยเหลือเยียวยาและป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ

พบ ‘มดอาจารย์รวิน’ มดสายพันธุ์ใหม่ ในไทย มีลักษณะเด่นแตกต่างจากมดอื่นๆ วานนี้ (24 ส.ค.) มีรายงานว่า มีการแถลงข่าวเรื่องการค้นพบมดชนิดใหม่ของโลกในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยผู้ค้นพบคือ นายรวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ

นายรวิน กล่าวว่า ช่วง10 ปีที่ผ่านมาทางหน่วยงานได้ดำเนินการค้นพบมดชนิดใหม่ของโลกกว่า 68 ชนิด และมดอาจารย์รวิน ซึ่งเป็นมดชนิดใหม่ของโลกนี้ ถูกค้นพบที่ประเทศไทย มีลักษณะเด่นต่างจากมดทั่วไป และผลงาน การวิจัยเหล่านี้ ได้ถูกนำไปตีพิมพ์ให้เป็นที่รู้จักจนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ

ขณะที่ นายวียะวัฒน์ ใจตรง นักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวว่า การพบมดชนิดใหม่นี้ เป็นความร่วมมือระหว่างทางองค์กรกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

มดที่พบนั้น มีลักษณะเด่นคือ ภายนอกขรุขระ ไม่เงาเหมือนมดพันธุ์อื่น ๆ และมีหัวที่ใหญ่ประมาณ 0.9 มม. ลำตัวยาว 3-4 มม. นอกจากจะมีชื่อว่ามดอาจารย์รวินเพื่อให้เกียรติต่อผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติแล้ว มดสายพันธุ์นี้มีชื่อเต็มว่า Myrmecina raviwongsei Jaitrong, Samung, Waengsothorn et Okido ถูกจัดเป็นมดสายพันธุ์ใหม่ของโลกเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

ทลายโรงงานผลิต ‘ครีมหมีปริญญา’ กวนครีมด้วยมีดเบเกอรี่กับมือ

วานนี้ (29 ส.ค.) กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้เข้าบุกทลายโรงงานผลิต ครีมหมีปริญญา หลังมีการร้องเรียนและสืบทราบว่ามีการผลิตครีมไม่ได้มาตรฐาน และส่งขายออนไลน์ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปที่ บ้านหลังหนึ่งใน หมู่ที่ 15 ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งใช้เป็นสถานที่ผลิตครีมดังกล่าว และจากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบทั้งอุปกรณ์การผลิต เนื้อครีมที่ยังไม่ผสม และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์จำนวนมาก โดยครีมหมีปริญญานั้นถูกวางอยู่เกลื่อนตามพื้น และผู้ผลิตใช้เครื่องตีแป้งเบเกอรี่ มีดปาดเค้ก และอุปกรณ์ทำเบเกอรี่ ในการกวนครีม ซึ่งใช้ส่วนผสมต้องห้าม รวมถึงมีการบรรจุครีมเป็นโหล และเป็นตลับมัดรวมในถึงพลาสติกอีกด้วย

ผู้ผลิตรับสารภาพว่า ลักลอบผลิตครีมหมีปริญญาส่งจำหน่ายไปยังตัวแทนจำหน่ายจริง โดยตนส่งครีมให้ตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะนำไปแบ่งบรรจุตลับครีมอีกต่อหนึ่ง ทั้งนี้ หากมีการพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะนี้ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. โทร. 1135 หรือ เพจ รู้ทันภัย เครื่องสำอาง อาหารและยา

พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวภายหลังการประชุมว่า ภูเก็ตเป็นเมืองสำคัญที่ทำรายได้เป็นอันดับหนึ่งในทุกๆ เรื่อง ทาง คสช.ซึ่งจะหมดหน้าที่ในเดือน พ.ค.นี้ ก็มาปิดท้ายเพื่อทำให้เกิดความยั่งยืน การจัดระเบียบต่างๆ ได้ต่อยอด โดยหลังจากนี้จะเข้าไปอยู่ความรับผิดชอบของ กอ.รมน.ที่ผ่านมามีการปรับปรุงเรื่อยๆ ในการจัดระเบียบ ที่ทำดีแล้ว

ส่วนกรณีมีการเรียกร้องให้ขยายพื้นที่โซนนิ่ง จากเดิม 10% ออกไปอีกในการวางร่มชายหาด คงจะเพิ่มเฉพาะช่วงไฮซีซั่นเพื่อให้เกิดความประทับใจของนักท่องเที่ยว แต่เมื่อเข้าหน้าโลว์ซีซั่นแล้วก็คงกลับคืนเหมือนเดิม แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ จังหวัด พิจารณา ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธาน มีคณะทำงานที่ต้องทำให้ยั่งยืนต่อไป เมื่อจัดระเบียบแล้วก็อยากให้มีความต่อเนื่องและดีขึ้นเรื่อยๆ

credit : replicaoakleysunglassesa.com rklet.com rosswalkerandassociates.com savejohnniewalker.org sdhpodmoklany.net sissidebeauregard.com sitetalkforum.net somosmasdel51.com sparklyuggs.com